การเริ่มต้นรถยนต์แล้วพบว่าเครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก อาจเป็นสัญญาณที่ระบบแบตเตอรี่มีปัญหา เนื่องจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ นี่คือ 5 สัญญาณที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ:
การสตาร์ทช้า: รถยนต์ที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพอาจมีการสตาร์ทช้าเมื่อคุณหมุนกุญแจเพื่อเริ่มเครื่องยนต์ นี่เป็นสัญญาณที่แสดงว่าแบตเตอรี่ไม่มีพลังงานเพียงพอสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์.
เสียงเสียงดังขณะสตาร์ท: เมื่อคุณหมุนกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วได้ยินเสียงคลิกหรือเสียงอื่นๆ ที่ดังกว่าปกติ อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ไม่มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเริ่มเครื่องยนต์.
แสงไฟบนแผงควบคุม: หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพมากพอ มีโอกาสที่จะมีไฟเตือนบนแผงควบคุม เช่น ไฟเตือนแบตเตอรี่ โชว์ขึ้น หรือระบบเครื่องจับความร้อนที่ทำงานไม่สมบูรณ์.
แบตเตอรี่รั่วไหล: หากคุณเห็นเส้นสายแบตเตอรี่มีคราบสกปรกหรือเห็นแบตเตอรี่รั่วไหลเหลือก็อย่างหนึ่ง อาจจะเป็นเครื่องชาร์จไม่เพียงพอ ทำให้แบตเตอรี่เสียเร็ว.
เกิดปัญหาเครื่องยนต์แบบไม่น่าคาดคิด: แบตเตอรี่ที่มีปัญหาอาจทำให้
เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ เช่น ชะงักหรือติดต่อเครื่องยนต์ไม่ได้
เมื่อพบสัญญาณเหล่านี้ ควรนำรถยนต์ไปตรวจเช็คที่อู่ซ่อมรถเพื่อตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพเท่าเมื่อครบรอบการใช้งานหรือมีปัญหาสามารถช่วยให้รถยนต์เริ่มสตาร์ทได้อย่างมั่นใจและเป็นระยะยาว
การเลือกวิธีแก้ปัญหาเมื่อรถยนต์เริ่มสตาร์ทติดยากจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพขึ้นอยู่กับสภาพและอายุของแบตเตอรี่ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่คุณควรพิจารณา:
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่: หากแบตเตอรี่ยังไม่เสื่อมสภาพมาก คุณอาจลองใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ก่อน แบตเตอรี่ที่ไม่มีปัญหามากอาจสามารถกู้คืนพลังงานได้ และคุณอาจใช้รถยนต์ได้อีกสักระยะ
เปลี่ยนแบตเตอรี่: ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพมากและเครื่องชาร์จไม่สามารถชาร์จให้พลังงานเพียงพอ อาจจะเป็นเวลาที่จะควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อให้รถยนต์สามารถเริ่มสตาร์ทได้อย่างเสถียรและมั่นใจ
เพื่อให้ช่างมืออาชีพทำการตรวจสอบและให้คำแนะนำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้ดี และใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกต้องจะช่วยเสริมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น.